เรามาทำความรู้จักกับโบท็อกซ์ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
อย่างแรก เราต้องรู้ก่อนว่า โบท็อกซ์ คืออะไร?
“โบท็อกซ์” เป็นชื่อทางการค้าของสาร “โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรีย
ข้อควรปฏิบัติหลังจากการฉีดโบท็อกซ์
1. ไม่ควรนอนราบ ในช่วง 3-4 ชั่วโมงหลังการรักษา
2. ห้ามนวดในบริเวณที่ทำการรักษาอาจทำให้ยากระจายไปยังบริเวณอื่น
3. พบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา เมื่อพบความผิดปกติใดเควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
อาการปวดศีรษะหรือความรู้สึกเจ็บๆคันๆ พบรอยช้ำจากการที่เข็มฉีดยา มักเกิดบริเวณหางตา
อาการปวดบวมบริเวณที่ฉีด กล้ามเนื้ออ่อนแรงเฉพาะที่ผลข้างเคียงมักหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์

เราสามารถรักษาด้วยโบทูลินั่ม ท็อกซินต่อเนื่องได้นานแค่ไหน และมีข้อจำกัดยังไง
เราสามารถรับการรักษาด้วยโบทูลินั่ม ท็อกซินได้ตามความต้องการของเรา โดยทั่วไปมักทำการรักษาซ้ำทุก 3-6 เดือนหรือนานกว่านี้ ขึ้นกับการทำงานของกล้ามเนื้อที่ต้องการรักษา

โบทูลินั่ม ท็อกซินไม่ใช่แค่ช่วยด้านความงาม
1. ภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการทำงานมากเกินของกล้ามเนื้อ เช่น ตาเข ,หนังตากระตุก ,กล้ามเนื้อคอเกร็งตัว
2. การปวดศีรษะแบบไมเกรน หรือ การปวดศีรษะจากความเครียด
3. ภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรัง (Myofascial pain)
4. ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis)

ห้ามฉีดโบทูลินั่ม ท็อกซิน ถ้าคุณ…
1. มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท
2. กำลังตั้งครรภ์ / อยู่ในระหว่างให้นมบุตร

แหล่งอ้างอิง https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1022
อ.พญ.ศศิมา เอี่ยมพันธุ์
ผศ.พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา
รศ.นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ
ศูนย์เลเซอร์ผิวหนังและศัลยกรรมผิวหนัง
ภาควิชาตจวิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล